เราอยากให้คุณลองนึกภาพ…ฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่มีหมูและของเสียจำนวนมาก เกษตรกรจัดการของเสียเหล่านั้น โดยการเอาขี้หมูไปผลิตเป็นพลังงานก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในการหุง ต้มอาหาร และลองตัดภาพมาในเมืองของพวกเราที่มีของเสียมากไม่แพ้กัน ทุกอย่างไหลลงแหล่งน้ำจนเกิดน้ำสกปรก เน่าเหม็นไม่แพ้ฟาร์มหมู แต่ในทางกลับกันไม่มีใครนำของเสียของพวกเราไปใช้ทำอาหารแน่นอน … นั่นจึงทำให้เกิดไอเดียสร้างพลังงานสะอาดจากสารอินทรีย์ในน้ำเน่าขึ้น เพื่อลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้น้ำเน่าและของเสียไหลผ่านกระบวนการผลิตจนเป็น “พลังงานไฟฟ้าชีวภาพ” นั่นเอง
พลังงานก๊าซชีวมวล คือ ก๊าซที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ได้จากการย่อยสลายสารอินทรีย์ภายใต้สภาวะที่ปราศจากออกซิเจน โดยทั่วไปจะหมายถึง ก๊าซมีเทน ที่เกิดจากการหมักของอินทรีย์วัตถุ ซึ่งประกอบด้วย ปุ๋ยคอก โคลนจากน้ำเสีย ขยะประเภทของแข็งจากเมือง หรือ ของเสียชีวภาพจากอาหารสัตว์ภายใต้สภาวะไม่มีออกซิเจน สารอินทรีย์จะถูกย่อยสลายโดยกลุ่มจุลินทรีย์ในสภาวะไร้อากาศ (ไร้ออกซิเจน) โดยสารอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน จะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์กลุ่มที่เปลี่ยนสารอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ให้เป็นกรดอินทรีย์ขนาดเล็ก เช่น น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว กรดอะมิโน และกรดไขมัน เป็นต้น กลุ่มแบคทีเรียที่สร้างกรดอะซิติกจะเปลี่ยนกรดอินทรีย์ขนาดเล็กให้เป็นกรดอะซิติกและก๊าซไฮโดรเจน และขั้นตอนสุดท้ายกลุ่มแบคทีเรียจะสร้างมีเทนโดยเปลี่ยนกรดอะซิติกและไฮโดรเจนให้กลายเป็นก๊าซมีเทนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (หรือก๊าซชีวภาพ) ซึ่งก๊าซดังกล่าวที่เกิดขึ้นจะลอยตัวขึ้น เหนือผิวน้ำ และจะถูกรวบรวมนำไปใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าต่อไป
และนั่นก็เป็นพลังงานทางเลือกอีกตัวหนึ่ง ที่ถูกพัฒนาจนเป็นพลังงานสะอาดและทำหน้าที่ลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของทุกคน และ ความมั่นคงในด้านพลังงาน