top of page

NEOM เมืองใหม่ของพลังงานสะอาด แห่งซาอุดิอาระเบีย


คำถามที่ว่ามนุษย์สามารถตั้งถิ่นฐานและอยู่อาศัยบนทะเลทรายรกร้างได้หรือไม่? กลายเป็นแรงผลักดันและสร้างความท้าทายให้เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ดำริในการสร้าง “NEOM หรือโครงการที่ททำในสิ่งที่โลกยังไม่เคยทำได้มาก่อน” เพื่อสร้างพื้นที่แห่งชีวิตกลางทะเลทรายขึ้นมาใหม่ จากคาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ. 2593 ประชากรราว 1 ล้านคน จำเป็นต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน เนื่องจากมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นจากทั่วโลก และระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มสูงขึ้น จนถิ่นฐานเดิมในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้น ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ และมีการคาดการณ์อีกว่าประชากรโลกกว่า 90% ต้องหายใจเอามลพิษเข้าปอดทุกวัน และจะล้มตายปีละกว่า 7 ล้านราย เพราะสภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศที่เป็นมลภาวะต่อมนุษย์

โครงการ NEOM ในภาษากรีกแปลว่า “ใหม่” และในภาษาอะราบิกแปลว่า “อนาคต” นี่จึงเป็นโครงการแห่งอนาคตที่จะนำพาซาอุดิอาระเบียให้อยู่รอดและปลอดภัยในโลกที่กำลังแย่ลง โดยเป็นหนึ่งในโครงการ Vision 2030 ที่ซาอุดิอาระเบียพยายามสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยเน้นในเรื่องของการจัดการพลังงานมาทดแทนน้ำมันดิบที่เป็นรายได้หลักของประเทศมาช้านานซึ่งร่อยหรอลงไปทุกที

NEOM ถูกวางแผนการก่อสร้าง และมีที่ตั้งอยู่ที่ริมชายฝั่งทะเลแดงทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่เวิ้งว้าง มีแต่ทะเลทรายและน้ำเค็ม เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ NEOM จะเป็นเมืองที่เรียงตัวตามแนวยาว 170 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดปลายสุดของเมือง และสามารถใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาทีเท่านั้นโดยมีการคาดการณ์ว่าเมืองแห่งนี้จะสร้างงานได้มากถึง 380,000 อัตรา และจะมีประชากรของเมืองเก่ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ราวๆ 1 ล้านคน

ความพิเศษของ NEOM ที่สามารถดึงดูดประชากรคุณภาพและนักลงทุนขนาดใหญ่เพื่อร่วมสร้างเมืองใหม่แห่งนี้มีหลายประการ อาทิ

- เมืองไม่มีถนน เพราะมีระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง ไฮเปอร์ลูปและโดรนแท็กซี่ Iรวมถึงสนับสนุนให้ชาวเมืองขี่จักรยานเพื่อสุขภาพ

- DigitalAir คือการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ความเร็วสูง เพื่อให้ชาวเมือง 1 ล้านคนได้ใช้กันฟรี

- แสงสว่างจากพระจันทร์เทียม ยามค่ำคืนทั่วทั้งเมืองจะนวลผ่องไปด้วยแสงสว่างจากพระจันทร์เทียมดวงโตริมชายฝั่งทะเลแดงจะมีการสร้างหาดทรายเรืองแสงที่สว่างเรืองรองหลังพระอาทิตย์ตกดิน

- เมฆฝนน้ำจืดเทียม เพื่อตอบโจทย์ดินแดนแห้งแล้ง ที่มีแต่แหล่งน้ำเค็มเท่านั้น ด้วยการสร้างเมฆเทียมที่จะช่วยให้ฝนตกชุกแม้อยู่กลางทะเลทราย และมีเทคโนโลยีเปลี่ยนน้ำเค็มเป็นน้ำจืด

- หุ่นยนต์ส่วนตัว ทุกบ้านจะมีหุ่นยนต์รับใช้ส่วนตัวและเรียนหนังสือกับคุณครูที่ปรากฏตัวกลางบ้านด้วยเทคโนโลยีโฮโลแกรม

- เรียนรู้เทคโนโลยี เรียนรู้ด้วยสวนสนุกและสวนสัตว์ที่สร้างขึ้นจากหุ่นยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีอนิมาทรอนิกส์ซึ่งเคลื่อนไหวเสมือนสัตว์จริงๆ

- เดินทางรวดเร็ว เมืองใหญ่ทุกเมืองในโลกจะใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินถึง NEOM ได้ใน 8 ชั่วโมงเท่านั้น

และที่สำคัญคือเรื่องของการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน โดยมหานครแห่งนี้จะปราศจากน้ำมันดิบซึ่งเป็นพลังงานของโลกยุคเก่า แต่เมืองแห่งนี้จะปฏิวัติพลังงานดังนี้

- พลังงานสะอาด 100% NEOM จะเป็นเมืองที่ใช้พลังงานสะอาด 100% เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวเมืองทุกด้าน เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งแน่นอนจะทำให้ NEOM ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 เปอร์เซ็นต์ ตอบวัตถุประสงค์การสร้างเมืองใหม่แห่งนี้

- พัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดให้เป็นวาระชาติ รัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะสร้างอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดให้เป็นรายได้ใหม่ของประเทศ จัดให้มีโรงงานผลิตกรีนไฮโดรเจน และดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเพื่อจะสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยมี NEOM เป็นศูนย์กลาง

NEOM เริ่มการก่อสร้างแล้วในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งถือเป็นทิศทางอันดีกับการปฏิวัติพลังงานจากโลกยุคเก่าเป็นพลังงานสะอาดยุคใหม่ของโลก นอกจากจะสามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาเรื่องของสภาวะโลกร้อนแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์เรื่องของสภาวะการร่อยหรอของพลังงานยุคเก่า เช่น น้ำมันดิบอีกด้วย เฉกเช่นแนวทางการขับเคลื่อน สนับสนุน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในประเทศไทย ของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ที่คาดหวังให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้นด้วยการใช้พลังงานสะอาด พลังงานแห่งโลกยุคใหม่


bottom of page